เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนแล้ว ใครที่ร่างกายต้องการทะเล อยากไปเที่ยวคลายร้อน ดื่มด่ำธรรมชาติที่สวยงาม สัมผัสหาดทรายสีขาว หรือจะไปดำน้ำ ดูปะการัง ชมความสวยงามใต้ท้องทะเล… ซัมเมอร์นี้ ททท. ขอแนะนำทุกคนเที่ยวทะเล 7 เกาะสวยน้ำใสในประเทศไทยที่รับรองว่าหากได้ไปหนึ่งครั้งแล้วต้องติดใจจนกลับไปซ้ำแน่นอน
1. เกาะเสม็ด ระยอง
อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด หรือ เกาะเสม็ด เป็นเกาะที่ใครหลาย ๆ คนต้องเคยไป เพราะเดินทางง่ายและมีทะเลที่สวยงาม สะอาด ไปได้บ่อยไม่เบื่อ นอกจากจะเดินเล่นบนชายหาด เดินเที่ยวหาของกินอร่อย ๆ บนเกาะแล้ว บนเกาะเสม็ดยังมีกิจกรรมที่เราสามารถไปทำได้อีกด้วย เช่น ดำน้ำชมปะการัง และปลาการ์ตูน พายเรือแคนู เล่นน้ำ และดูการแสดงโชว์ Fire Man Show
2. เกาะสีชัง ชลบุรี
เกาะสีชังเป็นเกาะสุดฮิตที่ตั้งอยู่กลางทะเล เป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตทั้งชาวไทยและต่างชาติ มีหาดทรายและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย รวมไปถึงวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เดินทางสะดวก เพียงแค่ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพเท่านั้น จะพักค้างคืนหรือเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับก็เที่ยวได้แบบจุใจ
3. เกาะนางยวน สุราษฎร์ธานี
เกาะนางยวน เป็นเกาะขนาดเล็ก ตั้งอยู่ที่ อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีลักษณะเป็นเกาะขนาดเล็ก ๆ 3 เกาะ เชื่อมต่อกัน มีสันทรายเป็นส่วนที่สามารถเดินถึงกันได้ ทำให้กลายเป็นทะเลแหวกและชายหาด 3 แห่งขึ้นมา นอกจากนี้ เกาะนางยวนยังเป็นอีกหนึ่งจุดดำน้ำ รอบ ๆ ตัวเกาะมีปะการังน้ำตื้นและน้ำลึกที่สภาพยังสมบูรณ์และสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเลือกที่จะมาพักผ่อนระยะยาวกันที่นี่
4. เกาะกระดาน ตรัง
เกาะกระดาน ที่ได้จัดอันดับว่าเป็น ชายหาดที่ดีที่สุดในโลก 2023 นี้ โดย World Beach Guide ของอังกฤษ และที่นี่ยังเป็นที่เที่ยวดังในเรื่องของการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรที่มีชื่อเสียงมาก ๆ กิจกรรมหลักของนักท่องเที่ยวที่มาเกาะกระดาน คือ การลงเล่นน้ำทะเล ดำน้ำตื้นดูปะการัง พายแพดเดิลบอร์ด / ซัพบอร์ด พายคายัก นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและลงอีกหลายจุดบนเกาะอีกด้วย
5. เกาะผ้า พังงา
เกาะผ้า เกาะสุดมินิมอล จุดเช็กอินสุด Unseen ของพังงา แต่เดิมเกาะแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งต้นไม้น้อยใหญ่ และต้นมะพร้าวมากมาย แต่เมื่อเกิดอุทกภัยสึนามิในปี พ.ศ. 2547 ทำให้เกาะแห่งนี้ถูกซัดหายไป ปัจจุบันจะมองเห็นเพียงเนินทรายสีนวล
เกาะแห่งนี้จะเป็นสันดอนทรายเฉพาะเวลาที่น้ำทะเลลดลงเท่านั้น ยิ่งน้ำลดมากเท่าไรก็จะมีเนื้อที่เกาะมากขึ้น ใครโชคดี มาช่วงน้ำลดลงมาก ๆ เกาะผ้าแห่งนี้จะปรากฏเป็น 3 เกาะเล็ก ๆ พร้อมหาดทรายสีนวลตัดกับน้ำทะเลสีฟ้า เสมือนผ้าที่พริ้วไสว
6. เกาะสุรินทร์ พังงา
หมู่เกาะสุรินทร์ ขึ้นชื่อในความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของเหล่าปะการังและสัตว์ใต้น้ำที่ยังคงมีสภาพสมบูรณ์ติดอันดับต้น ๆ ของโลก และนอกจากจะได้ชื่นชมความงามของปะการังแล้วยังสามารถไปสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมอแกนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ตามเกาะในทะเลอันดามัน ได้สร้างวัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ที่น่าสนใจไว้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
7. เกาะไข่ สตูล
เกาะไข่เป็นเกาะที่โอบล้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าคราม ตัดกับหาดทรายสีขาวเนียนละเอียด เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเกาะตะรุเตาและเกาะหลีเป๊ะ จุดไฮไลต์ของเกาะไข่คือ “ซุ้มหิน” ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หินก้อนใหญ่ถูกกัดเซาะจากกระแสน้ำจนเกิดเป็นช่องที่มีลักษณะคล้ายซุ้มประตูจนกลายมาเป็นจุดเด่นของเกาะนี้
ซุ้มหินแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “ซุ้มประตูรักนิรันดร์” เพราะมีเรื่องเล่าปากต่อปากกันมาว่า หากคู่รักคู่ไหน มาลอดซุ้มหินนี้ด้วยกันแล้ว เปรียบเสมือนประตูไปสู่การครองรักกันยืนยาวเป็นนิรันดร์