กาญจนบุรีเป็นจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายประเภท ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเที่ยวป่าที่รักธรรมชาติ ใครที่ชอบกิจกรรมสายประวัติศาสตร์สุดเอ็กซ์ตรีมหรืออยากแวะคาเฟ่สุดชิค กาญจนบุรี มีของมาฝากทุกคนแล้ววันนี้ Ticket2Attraction เรารวบรวมที่เที่ยวน่ารักมาให้ทุกคนวางแผนเที่ยวได้ง่ายๆ มีที่พักและรถเช่าพร้อมคนขับส่วนตัวให้เลือกสำหรับการเดินทางครั้งนี้ พวกเขาจะอยู่ที่ไหน? ไปดูกันเลย ที่เที่ยวขนาดนี้บอกเลยว่าจะไปเที่ยวกาญจนบุรีอีกกี่ครั้ง ยังหลงรักทุกครั้งที่ไปไม่ได้แล้ว
การเดินทาง
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
เส้นทางที่ 1 : เดินทางโดยใช้เส้นทาง ปิ่นเกล้า – พุทธมณฑล – นครชัยศรี – นครปฐม – บ้านโป่ง – กาญจนบุรี – ไทรโยค รวมระยะทาง 195 กม. เดินทางจากกรุงเทพฯ โดยการเดินทางโดยใช้ถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338) ผ่านศาลายา ไปทางถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) นครชัยศรี และเดินทางผ่านจังหวัดนครปฐม ไปอีก 10 กม. จะเห็นป้ายไป อ.บ้านโป่ง / กาญจนบุรี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 323 เป็นเส้นทางหลัก ผ่านอำเภอบ้านโป่ง – อำเภอท่ามะกา – อำเภอท่าเรือ – อำเภอท่าเมือง – จังหวัดกาญจนบุรี – อำเภอไทรโยค -น้ำตกไทรโยคน้อย
ระยะทาง กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี = 129 กม.
เส้นทางที่ 2 : เดินทางโดยใช้เส้นทาง บางใหญ่ – บางเลน – กำแพงแสน – พนมทวน – กาญจนบุรี – ไทรโยค รวมระยะทาง 220 กม. เดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางตลิ่งชัน-ถนนสุพรรณกาญจนาภิเษก (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9) ผ่านอำเภอบางใหญ่ เชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 340 มุ่งหน้าสู่จังหวัดสุพรรณบุรี ระยะทางอีก 10 กม. จะถึงแยกนพวงศ์ เพื่อเลี้ยวซ้ายใช้ทางหลวงหมายเลข 346 ไปจนถึงอำเภอบางเลน ระยะทาง 20 กม. และผ่านอำเภอบางเลนไปยังอำเภอกำแพงแสนโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 346 ไปทางอำเภอกำแพงแสนและเดินทางต่อไปยังอำเภอ พนมทวน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 324 เพื่อเดินทาง จังหวัดกาญจนบุรี มาถึงสี่แยกวังสารภี (ก่อนถึงเมืองกาญจนบุรี) เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 367 (ถนนบายพาสกาญจนบุรี) ต่อไปจนถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน
การเดินทางด้วยรถไฟ
จากสถานีธนบุรีถึงสถานีน้ำตก
มีรถไฟชั้น 3 ให้บริการ 2 เที่ยวต่อวันจากกรุงเทพฯ ไปสถานีน้ำตก โดยจะหยุดที่จังหวัดกาญจนบุรี และสะพานข้ามแม่น้ำแคว ค่าบริการ 100 บาท (กรุณาตรวจสอบราคาที่ www.railway.co.th)
รถไฟยามเช้า
รถไฟขบวนเช้าหมายเลข 257 ออกจากกรุงเทพฯ ที่สถานีธนบุรี เวลา 07.50 น. ถึงกาญจนบุรี เวลา 10.25 น. สะพานข้ามแม่น้ำแคว เวลา 10.42 น. และสถานีน้ำตก เวลา 12.35 น.
รถไฟช่วงบ่าย
รถไฟรอบบ่ายหมายเลข 259 ออกจากกรุงเทพฯ ที่สถานีธนบุรี เวลา 13.55 น. / ถึงจังหวัดกาญจนบุรี เวลา 16.24 น. สะพานข้ามแม่น้ำแคว เวลา 16.33 น. และสถานีน้ำตก เวลา 18.30 น.
อัพเดทที่เที่ยวชวนหลงรัก 2024
1. สกายวอล์คกระจกใสริมแม่น้ำแคว
มากาญจนบุรีเสมอ พลาดไม่ได้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดใหม่ สกายวอล์คกระจกใสริมแม่น้ำแควสวยงามมาก ยาว 144 เมตร สูง 12 เมตร อีกทั้งยังเป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ วิวคือจุดเด่นของที่นี่ คือจะได้เห็นแม่น้ำสองสี แม่น้ำแควน้อย และแม่น้ำแควใหญ่ไหลมารวมกัน เป็นต้นกำเนิดแม่น้ำแม่กลอง มองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของวัดถ้ำเขาแหลม และสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนริมแม่น้ำแคว เป็นที่ที่น่าไปเยี่ยมชมมาก ถ้าได้ก็ต้องหลงรัก
เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. (มีค่ายืมรองเท้าคู่ละ 60 บาท)
2. คีรีมันตรา
ร้านอาหารแนะนำเมื่อเดินทางไปกาญจนบุรี ที่ถือว่าได้รับความนิยมในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวก็คือ ร้านอาหารคีรีมันตรา กาญจนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 4 ถนนหลังชูโต ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองกาญจนบุรี นอกจากจะเป็นรีสอร์ทให้คนมาพักแล้ว ยังคงเปิดร้านอาหารอยู่ และรสชาติอาหารก็ค่อนข้างอร่อยจริงๆ ในส่วนของพื้นที่ร้านจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ห้องอาหาร สนามหญ้า และลานจอดรถ สำหรับร้านอาหาร ทางร้านจะแบ่งออกเป็น 3 อาคาร โดยอาคาร 1 และ 2 มีทั้งสองอาคาร ที่นั่งในร่มและที่นั่งบนระเบียง สำหรับใครที่ชอบนั่งชิลรับลมเย็นๆ นอกจากนี้ยังมีบีนแบ็กขนาดใหญ่ให้คุณได้นั่งพักผ่อนพร้อมจิบเครื่องดื่ม พร้อมเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพ
เปิดทุกวัน เวลา 09.30-21.00 น.
3.วัดถ้ำเสือ
วัดถ้ำเสือเป็นวัดและสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ทิวทัศน์ล้อมรอบด้วยนาข้าวและมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ หลวงพ่อชินประธานพร วัดประกอบด้วยอาคารและเจดีย์ สถาปัตยกรรมไทย จีน ญี่ปุ่น และสถาปัตยกรรมผสมผสาน เดิมเป็นวัดเล็กๆ ในบริเวณถ้ำเสือใต้เชิงเขา แต่ต่อมาชาวบ้านร่วมกันสร้างและบูรณะจนกลายเป็นวัดใหญ่และสวยงามมาก ด้านหน้าวัดเป็นแม่น้ำแม่กลอง บอกเลยว่าวิวสวยมาก เป็นสถานที่เงียบสงบและบรรยากาศดีมาก
4.สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว ถึงกาญจนบุรี ถ้าไม่มาถ่ายรูปกับสะพานข้ามแม่น้ำแควก็เหมือนมาไม่ถึง เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คเลยก็ว่าได้ ของจังหวัดกาญจนบุรี ปัจจุบันใช้เป็นทางสัญจรทางรถไฟสายธนบุรี-น้ำตก หรือทางรถไฟสายมรณะ และได้รับการยกย่องว่าเป็น “สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ” อีกด้วย
5. น้ำตกเอราวัณ
น้ำตกเอราวัณ น้ำตกเอราวัณตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ความสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ระหว่าง 100 – 400 เมตร แบ่งออกเป็น 7 ระดับที่แตกต่างกัน จุดเด่นคือเป็นน้ำตกบนเทือกเขาหินปูน ทำให้น้ำเป็นสีเขียวอมฟ้าเมื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ สวยมาก. คุณต้องมาสัมผัสด้วยตาของคุณเองอย่างน้อยสักครั้ง